พอนด์ส เผยสาวออฟฟิศปี 2556 เสี่ยงปัญหา “ผิวหน้าทะเลทราย”


          ปัญหาผิวหน้าทะเลทราย

 

       “ผิวหน้าทะเลทราย” เกิดจากการที่ผิวแห้งขาดน้ำ (Dehydration skin) เนื่องจากผิวหนังชั้นนอกที่ทำหน้าที่รักษาสมดุลของน้ำและป้องกันเชื้อโรค ซึ่งประกอบด้วยโปรตีน ไขมัน และสารรักษาความชุ่มชื้นตามธรรมชาติถูกทำลาย จึงทำให้ผิวสูญเสียน้ำและไม่สามารถเก็บกักความชุ่มชื้นเอาไว้ได้ เมื่อเกิดปัญหา “ผิวแห้งขาดน้ำ” อาการแรกที่พบคือ 

1.ผิวจะมีลักษณะหยาบอิดโรย ไม่กระจ่างใส 
 
2.ผิวแห้งเป็นขุย เมื่อขาดน้ำมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้สาวๆ แต่งหน้าไม่ติดและไม่อยู่ทน 

3.ผิวแตก เมื่อผิวขาดน้ำมากที่สุด 
    
            เปรียบเสมือนกับทะเลทรายที่แห้งแล้งขาดความชุ่มชื้น เมื่อเกิดแล้วการดูแลรักษาให้คืนสภาพผิวสวยดังเดิมก็ยากขึ้นและใช้เวลา เพราะผิวหนังมีน้ำเป็นองค์ประกอบโดยประมาณ 60 – 70% ความสมดุลของน้ำในเซลล์ผิวหนังจึงมีความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพผิว

 

ปัจจัยเสี่ยงการเกิดผิวหน้าทะเลทราย

      ดร.บุศราภรณ์ สำราญ
ผู้จัดการระดับภูมิภาค ฝ่ายวิจัยผู้บริโภคและพัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ จากสถาบันวิจัยพอนด์ส เผยสาวออฟฟิศในสังคมเมืองยุคใหม่เสี่ยงเจอปัญหาผิวมากที่สุด พร้อมไข 6 ปัจจัย

การเกิดปัญหาผิวหน้าทะเลทรายหรือผิวขาดน้ำ ดังนี้

1. การอยู่ในห้องแอร์เฉลี่ยมากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน


    เสี่ยงการเกิดปัญหาผิวทะเลทรายซึ่งโดยปกติสาวๆ ออฟฟิศจะใช้เวลาทำงานประมาณ 8 ชั่วโมงต่อวัน แต่ถ้าดูจากความเป็นจริงแล้ว หลายคนอยู่ที่ทำงานท่ามกลางแอร์หนาวฉ่ำนานกว่านั้น เนื่องจากยังเคลียร์งานไม่เสร็จ รถติดออกจากออฟฟิศไม่ได้ หรือบางคนเลือกไปสังสรรค์กับเพื่อนต่อที่ห้างสรรพสินค้าและร้านอาหาร หรือเปิดแอร์นอนตอนกลางคืน จึงเป็นการต่อยอดการใช้เวลาอยู่ในห้องแอร์ให้นานกว่า 8 ชั่วโมงทั้งสิ้น

                 


2. การดื่มน้ำไม่เพียงพอ
 
    
 ร่างกายของคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบโดยเฉลี่ยอยู่ถึง 60% ของน้ำหนักตัว เราอาจจะอดอาหารได้เป็นเดือน ๆ แต่ร่างกายไม่สามารถขาดน้ำได้เกินกว่า 3 -7 วัน สาวๆ ไหนคนที่ไม่ค่อยชอบดื่มน้ำเปล่า ลองคำนวนปริมาณน้ำที่ควรดื่มต่อวันตามน้ำหนัก* เพื่อดูว่าในแต่ละวันดื่มน้ำเพียงพอแล้วหรือยัง 
          ตัวอย่าง น้ำหนักตัวคูณกับ 30 ผลลัพธ์ที่ได้คือปริมาณน้ำที่ควรดื่มต่อวันโดยหน่วยคือมิลลิลิตร (เช่น น้ำหนัก 45 กิโลกรัม 45×30 =  1,350 มิลลิลิตรหรือเท่ากับดื่มน้ำวันละ 1.35 ลิตร)

      โดยปกติแล้วร่างกายจะมีการสูญเสียน้ำออกไปไม่ว่าจากการออกกำลังกาย จากสภาวะอากาศ อาการท้องเสีย หรือการขับถ่ายของเสีย ดังนั้นจึงต้องนำน้ำเข้าสู่ร่างกายเพื่อชดเชยกันและควรสังเกตด้วยว่าน้ำหนักลดลงมากกว่าปกติหรือไม่ เพราะยิ่งน้ำหนักหายไปมาก ยิ่งแสดงว่าเราควรเติมน้ำเข้าสู่ร่างกายเพื่อให้สมดุลมากขึ้น

3. มลภาวะในเมืองกรุง

     ทั้งมลพิษ แสงแดด ลม ความชื้นที่น้อยลงในบรรยากาศจะมีอิทธิพลต่อการสูญเสียน้ำออกจากผิวหนัง ผิวหน้าจึงอ่อนแอจนส่งผลให้ผิวขาดน้ำในที่สุด

4. การใช้แอลกอฮอล์หรือสบู่ที่เป็นด่างสูงในการทำความสะอาดผิวหน้า
 
     ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังแม้แต่การการทำความสะอาดแต่ก็สามารถทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้นไปด้วย ซึ่งสามารถก่อให้เกิดปัญหาผิวหน้าทะเลทรายได้เช่นเดียวกัน

5. อายุเลยวัย 25 เมื่อสาวๆ อายุมากขึ้นตั้งแต่ 25-30 ปีขึ้นไป
 
     การทำงานของกระบวนการผลัดผิวเซลล์และการสร้างไขมันในเซลล์ผิวหนังเริ่มช้ากระบวนการรักษาสมดุลความชุ่มชื้นลดลงทำให้ผิวขาดน้ำได้ง่ายขึ้น

6. ปาร์ตี้เกิร์ล 
  
สาวๆคนไหนที่ดื่มจัดสูบบุหรี่และปาร์ตี้บ่อยมีความเสี่ยงสูงที่จะก่อให้ผิวขาดน้ำแอลกอฮอล์จะทำให้ผิวเกิดรอยแดงและหยาบกร้าน ส่วนนิโคตินในบุหรี่ก็ทำให้ผิวบางหย่อนคล้อยง่ายและแห้งเสียนานไปจะส่งผลให้แก่ก่อนวัยที่สำคัญคือเมื่อรู้สึกกระหายน้ำคอแห้ง ควรดื่มน้ำเปล่าเป็นอันดับแรก เพื่อปรับสร้างสมดุลที่ขาดหายไป

วิธีการดูแลรักษาผิวหน้าทะเลทราย

ดร.บุศราภรณ์ สำราญ
แนะนำวิธีการดูแลรักษาปัญหาผิวหน้าทะเลทรายว่า “ปัญหาผิวหน้าทะเลทราย ก่อให้เกิดปัญหาผิวตามมาในอนาคต ได้แก่ ผิวบางแพ้ง่ายเกิดริ้วรอยก่อนวัยนอกจากนี้ ปัญหาผิวขาดน้ำจะส่งผลให้เกิดความเครียด ปวดหัว รู้สึกกระหายน้ำ คอแห้ง เมื่อยล้า วิงเวียนสาวๆ ออฟฟิศที่อายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไปควรเริ่มดูแลสุขภาพผิวหน้าของตัวเองมากๆ เนื่องจากมีปัจจัยสิ่งแวดล้อมเร่งให้เกิดปัญหาผิวหน้าทะเลทรายหรือผิวขาดน้ำมากขึ้น ควรดื่มน้ำประมาณวันละ 7-8 แก้ว 


                

       โดยผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าให้ดื่มปริมาณไม่มาก แต่ให้ดื่มระหว่างวันอย่างสม่ำเสมอ เช่น ทุกชั่วโมง จะให้ประโยชน์ในการรักษาสมดุลได้ดีที่สุดการดื่มน้ำนอกจากจะช่วยให้สุขภาพดีแล้วยังช่วยให้ใบหน้าชุ่มชื้น เปล่งปลั่งอีกด้วย โดยควรดื่มน้ำอุ่นที่ไม่ต่ำกว่าอุณหภูมิร่างกายหรือประมาณ 36-37 องศาเซลเซียส เพื่อให้ร่างกายลดการสูญเสียพลังงานและการคืนสมดุลจากการดื่มน้ำเย็น ควบคู่กับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมซึ่งทำหน้าที่ใกล้เคียงกับสารรักษาความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ โดยเฉพาะพืชที่สามารถเก็บกักน้ำได้ในภาวะแห้งแล้ง อย่างยุคคา (Yucca) พืชที่ขึ้นอยู่กลางทะเลทรายซึ่งมีต้นกำเนิดจากสหรัฐอเมริกา เป็นพืชที่เปรียบเสมือนโอเอซิสกลางทะเลทรายช่วยเก็บความชุ่มชื้น อุ้มน้ำ พร้อมช่วยผลัดเซลล์ ฟื้นบำรุงผิวขาดน้ำให้กลับคืนมาดูสุขภาพดี เปล่งประกายอีกครั้ง รวมถึงการหลีกเลี่ยงการใช้แอลกอฮอล์ หรือสบู่ที่เป็นด่างสูงในการทำความสะอาดผิวหน้า สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อให้สาวออฟฟิศห่างไกลจากปัญหาผิวหน้าทะเลทรายที่ยิ่งส่งผลเสียในอนาคต”

ปี 2556 นี้ สาวๆ ออฟฟิศมาเตรียมรับมือกับปัญหาผิวหน้าทะเลทราย เพื่ออวดผิวสวยเปล่งประกายแลดูชุ่มชื้นอิ่มน้ำตลอดทั้งปี

*ข้อมูลจาก: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ, 6 มกราคม 2553 และ Natural Hydration Council ปี 2011





แสดงความคิดเห็น






Pooyingnaka Wellness


Advertisement